วัดดาวเรือง เดิมชื่อ “วัดดาวเสด็จ” ตั้งอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งแม่น้ำป่าสักกับกรมทหาร จังหวัดสระบุรี ต่อมา เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๐ ได้ย้ายเสนาสนะมาสร้างใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ราบริมแม่น้ำป่าสักในเขตของหมู่บ้านดาวเรือง จึงได้ตั้งชื่อใหม่ตามสถานที่ตั้ง ว่า “วัดดาวเรือง” โดยการนำของหลวงพ่อแหย่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น (พ.ศ. ๒๓๗๐) และราษฎรหมู่บ้านดาวเรือง ได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะเพื่อใช้เป็น ที่พักสงฆ์ วัดดาวเรืองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๑ สิ่งที่น่าสนใจ ๑. วิหารหลวงพ่อแหย่ง , หลวงพ่อสมบูรณ์ ๒. เรือเจ้าแม่พลายสมุทร
รสนิยมข้าวมันไก่ ตำนาน70ปี สระบุรี เป็นร้านที่อยู่คู่บ้าน คู่เมืองสระบุรีกันมาอย่างช้านาน ด้วยข้าวมันไก่ที่ให้ปริมาณอย่างไม่หวงวัตถุดิบ และแต่ละจานปรุงกันอย่างพิถีพอถัน และน้ำจิ้มรสเด็ดที่เป็นสูตรลับของทางร้านโดยเฉพาะที่ไม่มีใครเหมือน จึงทำให้เป็นที่ติดอกติดใจของคนเมืองสระบุรีกันอย่างปากต่อปาก พิกัด ถนนพิชัยใกล้ตลาดสุขุมาล เมืองสระบุรี เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30-14.00 น.
บรรยากาศสบายๆ นั่งชิวๆ สัมผัสกับธรรมชาติที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เป็นร้านอาหารไทยริมน้ำ ด้านรายการอาหารก็มีให้เลือกเยอะ และส่วนใหญ่รสชาติดี อร่อย ราคาไม่แพงมาก
วัดศาลาแดง เป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ” หรือ "พระพุทธรูปสี่มุมเมือง" มีอยู่ ๔ องค์ ถูกจัดสร้างขึ้น ตามความเชื่อและโบราณประเพณีของบ้านเมือง ที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องขอบขัณฑสีมาทั้งสี่ทิศ โดยการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศนั้นเป็นการสร้างพระพุทธรูปแบบ "จตุรพุทธปราการ" เพื่อปกป้องภยันตรายจากอริราชศัตรู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมสร้างดวงชะตาแก่บ้านเมือง และคุ้มครองพสกนิกรทั้งมวลให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข สิ่งที่น่าสนใจ ๑. พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ๒. วังมัจฉา ริมแม่น้ำป่าสัก
วัดทองพุ่งพวง เดิมชื่อ วัดช่องลม เพราะสถานที่ต้องของวัดอยู่ทางทิศเหนือของอาคารที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี เมื่อถึงฤดูหนาวมักจะมีลมหนาวพัดผ่านมายังวัดแห่งนี้ เดิมที่แห่งนี้เป็น ทุ่งนามีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน และเป็นที่พักค้างแรมของพระภิกษุสงฆ์ และ ประชาชนทั่วไปที่เดินผ่านมาเพื่อรอขึ้นเรือข้ามฝากในตอนเช้า ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก และวัดทองพุ่มพวงแห่งนี้จึงเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสระบุรีจวบจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจ ๑. องค์พระราหู พระสุริยะบัพพา
วัดเชิงเขา วัดในเมืองสระบุรีที่ได้รับบริจาคทุนการก่อสร้างตั้งต้นจากเกจิชื่อดัง“หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก” แห่งวัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยแพร่พลังศรัทธามายังชาวสระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง วัดเชิงเขาเป็นวัดที่มีโครงการก่อสร้างยิ่งใหญ่อลังการมาก โดยเฉพาะพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก ( พระธาตุเชิงเขา ) ที่ออกแบบได้ซับซ้อนและยิ่งใหญ่มาก เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นบนภูเขาโดยมีความสูงถึง5ชั้น ภายในถ้ำก็มีการติดไฟส่องสว่างหลากสีสัน มีน้ำตกจำลอง และสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย สิ่งที่น่าสนใจ ๑. พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโกบนยอดเขา ๒. ถ้ามรกต อยู่ภายในอาคารใต้พระมหาธาตุเจดีย์
วัดศรีบุรีรตนาราม หรือวัดเพรียว สันนิษฐานว่าสร้างราวปี พ.ศ. ๒๐๙๒ มีนามเดิมว่า “วัดม่วงงาม” เมืองสระบุรีนั้นเดิมเรียกว่า “เมืองปากคลองเพรียว” สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นไว้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองในสมัยนั้น เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสระบุรี ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งองค์พระแก้วมรกตเคยมาประดิษฐานพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ ก่อนที่จะอัญเชิญเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดจนมีพระพุทธรูปนามว่า “หลวงพ่อพุทโธ”วัดนี้จะมีลักษณะเด่นที่ตัวฐานของพระอุโบสถ ซึ่งจะมีรูปแบบคล้ายเรือสำเภาซึ่งสวยงามมาก ลวดลายต่าง ๆ รอบอุโบสถก็งดงามเช่นกัน มีความอ่อนช้อยเป็นลวดลายที่วิจิตรสวยงาม พุทธศาสนิกชนมักจะมาสักการะบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร "พระแก้วมรกตองค์จำรอง“ที่ได้มาประดิษฐาน ณ. วัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจ ๑. หลวงพ่อพุทโธ สิ่งศักด์สิทธิ์คู่เมืองปากเพรียว ๒. โบสถ์ สถาปัตยกรรมรูปทรงเรือสำเภา ๓. พิพิธภัณฑ์ของเก่าเมืองปากเพรียว
ข้อมูลสถานที่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวว่า มีพระภิกษุไทยคณะหนึ่ง เดินทางไปยังลังกาทวีป เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท พระสงฆ์ลังกากล่าวว่า ประเทศไทยก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่แล้วที่เขาสุวรรณบรรพต จึงได้นำความกราบทูลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมให้ทรงทราบ และได้สืบหาจนพบรอยพระพุทธบาท เพื่อเป็นที่สักการบูชา เป็นศูนย์รวมแห่งพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ พระพุทธบาทสระบุรีเป็นพระอารามหลวง ที่พระมหากษัตริย์แทบทุกพระองค์ทรงทำนุบำรุงและเสด็จไปนมัสการตลอดมา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ ลักษณะเด่น -ปูชนียสถานที่สำคัญคือ รอยพระพุทธบาท ที่ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพตหรือ เขาสัจจพันธคีรี รอยพระพุทธบาทมีความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว พระเจ้าทรงธรรมทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบรอยพระพุทธบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย ประวัติ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ปูชนียสถานที่สำคัญคือ รอยพระพุทธบาท ที่ประทับไว้ในแผ่นหิน ค้นพบในสมัย พระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประ การ จึงโปรดให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบรอย-พระบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระพุทธบาท ซึ่งเก็บรวบรวมศิลปวัตถุต่างๆ เช่น เครื่องทรงของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่า พัดยศ ของพระสมัยต่าง ๆ และ ท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น