วัดบ้านอ้อย ตั้งอยู่เลขที่ ๑๓ ถนนเทศบาล ๗ ตำบลปากเพรียว อำเภอ เมือง จังหวัดสระบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีธรณีสงฆ์ ๑ แปลง เนื้อที่ ๙ ไร่ ๒ งาน สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๕ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ มีพระประจำวัดคือ “หลวงพ่อขาว”และจุดเด่นคือสวนศาลาท่าน้ำ และศูนย์นวดแผนไทยชุมชน บ้านอ้อย ๑ (อ.ส.ม.) เทศบาลเมืองสระบุรี สิ่งที่น่าสนใจ ๑. วิหารหลวงพ่อขาว อันศักดิ์สิทธิ์ ๒. ศูนย์นวดแผนโบราณชุมชน ๓. วังมัจฉา ริมแม่น้ำป่าสัก
วัดศรีบุรีรตนาราม หรือวัดเพรียว สันนิษฐานว่าสร้างราวปี พ.ศ. ๒๐๙๒ มีนามเดิมว่า “วัดม่วงงาม” เมืองสระบุรีนั้นเดิมเรียกว่า “เมืองปากคลองเพรียว” สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นไว้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองในสมัยนั้น เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสระบุรี ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งองค์พระแก้วมรกตเคยมาประดิษฐานพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ ก่อนที่จะอัญเชิญเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดจนมีพระพุทธรูปนามว่า “หลวงพ่อพุทโธ”วัดนี้จะมีลักษณะเด่นที่ตัวฐานของพระอุโบสถ ซึ่งจะมีรูปแบบคล้ายเรือสำเภาซึ่งสวยงามมาก ลวดลายต่าง ๆ รอบอุโบสถก็งดงามเช่นกัน มีความอ่อนช้อยเป็นลวดลายที่วิจิตรสวยงาม พุทธศาสนิกชนมักจะมาสักการะบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร "พระแก้วมรกตองค์จำรอง“ที่ได้มาประดิษฐาน ณ. วัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจ ๑. หลวงพ่อพุทโธ สิ่งศักด์สิทธิ์คู่เมืองปากเพรียว ๒. โบสถ์ สถาปัตยกรรมรูปทรงเรือสำเภา ๓. พิพิธภัณฑ์ของเก่าเมืองปากเพรียว
บรรยากาศสบายๆ นั่งชิวๆ สัมผัสกับธรรมชาติที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เป็นร้านอาหารไทยริมน้ำ ด้านรายการอาหารก็มีให้เลือกเยอะ และส่วนใหญ่รสชาติดี อร่อย ราคาไม่แพงมาก
วัดเจดีย์งาม สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. ๒๑๒๒ ต่อมาเรียกว่า “วัดเจดีย์หัก” เพราะมีซากเจดีย์ ซึ่งปรักหักพังอยู่บนเนินเขาถึงสมัยรัชกาลที่ ๒ และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ต่อมาสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เห็นว่าชื่อวัดเจดีย์หักไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นชื่อ “วัดเจดีย์งาม” ใน พ.ศ. ๒๔๘๓ สิ่งที่น่าสนใจ ๑. พระพิฆเนศ ๒. พระสังฆจาย ๓.เจดีย์สีทอง (อยู่ในระหว่างก่อสร้าง)
วัดแก่งขนุน ที่ได้ชื่อว่า “แก่งขนุน” นั้นในอดีตเมื่อครั้งยังไม่มีการชลประทาน เมื่อหน้าแล้งน้ำในลำแม่น้ำป่าสักจะแห้งขอดจนเห็นโขดหินซึ่งมีลักษณะคล้ายกับลูกขนุน ดังนั้น จึงตั้งชื่อว่า “แก่งขนุน” เดิมของชาวบ้านแก่งขนุน ตามตำนานได้กล่าวว่า เมื่อครั้งในรัชสมัย ของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ได้โปรดให้จัดทัพเพื่อนำไปตีเมืองเชียงแสน คืนจากพม่า เมื่อสามารถตีเมืองเชียงแสนคืนจากพม่าแล้ว ก็โปรดเกล้าฯให้กวาดต้อนผู้คนมาตั้งถิ่นฐาน ณ ที่อำเภอเสาไห้ เป็นจุดศูนย์กลาง และมีส่วนหนึ่งที่กระจายมาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอเมืองสระบุรี คือ บ้านแก่ง สิ่งที่น่าสนใจ ๑. ลานธรรม ,สวนปฏิบัติธรรม ๒. หลวงพ่อแพ่ว ๓. สมเด็จโต หลวงพ่อเมตตาศักดิ์สิทธิ์
ร้านกระหรี่ปั๊บ คุณเจี๊ยบ สระบุรี ร้านอยู่ข้างทางรถไฟเมืองสระบุรี ตรงข้ามธนาคาร UOB ด้านหน้าร้านมีไก่ชนตัวใหญ่ยืนค่อยต้อนรับลูกค้าเป็นจุดสังเกตและเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ซึ่งกระหรี่ปั๊บทำสดใหม่ทุกวัน สะอาด ถูกหลักอนามัย ไม่ใช้น้ำมันค้างคืน อร่อยกรอบ หอม ไส้เยอะได้ลองชิมแล้วจะติดใจ มีทั้งหมด 10 ไส้ให้เลือก ไม่ว่าจะ ไส้ไก่ หมูเห็ดหอม ไก่ไข่เค็ม หมูหยองน้ำพริกเผา ถั่วเหลือง เผือก สับปะรด องุ่น สตอเบอร์รี่ ไส้ช็อคโกแลต ที่ร้านกะหรี่ปั๊บคุณเจี๊ยบไม่ได้มีแต่กะหรี่ปั๊บขายอย่างเดียวเท่านั้นนะมอร์ แต่ยังมีพายสับปะรดรสชาติเยี่ยมขายด้วยซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน รวมทั้งของฝากอีกหลายอย่างให้เลือกอีกด้วย ที่ตั้ง : เลขที่ 212 ถ.พหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เบอร์โทรศัพท์ : 036 220 118 , 086-665-5154 แฟนเพจเฟสบุ๊ค : www.facebook.com/karheepubkhunjeab/
ข้อมูลสถานที่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวว่า มีพระภิกษุไทยคณะหนึ่ง เดินทางไปยังลังกาทวีป เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท พระสงฆ์ลังกากล่าวว่า ประเทศไทยก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่แล้วที่เขาสุวรรณบรรพต จึงได้นำความกราบทูลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมให้ทรงทราบ และได้สืบหาจนพบรอยพระพุทธบาท เพื่อเป็นที่สักการบูชา เป็นศูนย์รวมแห่งพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ พระพุทธบาทสระบุรีเป็นพระอารามหลวง ที่พระมหากษัตริย์แทบทุกพระองค์ทรงทำนุบำรุงและเสด็จไปนมัสการตลอดมา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ ลักษณะเด่น -ปูชนียสถานที่สำคัญคือ รอยพระพุทธบาท ที่ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพตหรือ เขาสัจจพันธคีรี รอยพระพุทธบาทมีความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว พระเจ้าทรงธรรมทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบรอยพระพุทธบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย ประวัติ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ปูชนียสถานที่สำคัญคือ รอยพระพุทธบาท ที่ประทับไว้ในแผ่นหิน ค้นพบในสมัย พระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประ การ จึงโปรดให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบรอย-พระบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระพุทธบาท ซึ่งเก็บรวบรวมศิลปวัตถุต่างๆ เช่น เครื่องทรงของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่า พัดยศ ของพระสมัยต่าง ๆ และ ท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น
วัดดาวเรือง เดิมชื่อ “วัดดาวเสด็จ” ตั้งอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งแม่น้ำป่าสักกับกรมทหาร จังหวัดสระบุรี ต่อมา เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๐ ได้ย้ายเสนาสนะมาสร้างใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ราบริมแม่น้ำป่าสักในเขตของหมู่บ้านดาวเรือง จึงได้ตั้งชื่อใหม่ตามสถานที่ตั้ง ว่า “วัดดาวเรือง” โดยการนำของหลวงพ่อแหย่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น (พ.ศ. ๒๓๗๐) และราษฎรหมู่บ้านดาวเรือง ได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะเพื่อใช้เป็น ที่พักสงฆ์ วัดดาวเรืองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๑ สิ่งที่น่าสนใจ ๑. วิหารหลวงพ่อแหย่ง , หลวงพ่อสมบูรณ์ ๒. เรือเจ้าแม่พลายสมุทร